Formula E เป็นหนึ่งในการแข่งขันความเร็วที่กำลังได้รับความนิยมเทียบเท่า Formula 1 นักแข่งรถระดับโลกหลายคนก็ผันตัวเองมาลงแข่งขันให้กับทีมใน Formula E ทำให้รายการนี้สนุกและท้าทายไม่ต่างจากเวทีเครื่องยนต์สันดาปอย่าง Formula 1 และกำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากเวที Formula E นั้นเป็นเหมือนหนึ่งในห้องทดลองนวัตกรรมความเร็วของรถไฟฟ้า เพื่อนำเทคโนโลยีไปต่อยอดใช้กับรถยนต์ไฟฟ้าบนท้องถนนจริง ซึ่งจะว่าไปแล้วก็เหมือนกับที่วงการ Formula 1 ได้ช่วยสร้างเทคโนโลยีใหม่ๆ ให้กับรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปในอดีต เทคโนโลยีหลายอย่างเช่นเครื่องยนต์แบบ V หรือระบบ เทอร์โบ ก็ต่อยอดมาจากเทคโนโลยีในสนาม Formula 1 แทบทั้งสิ้น
Formula E จึงเป็นเหมือนสิ่งที่ต่อยอดการพัฒนาเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้าในยุคต่อไป ดังนั้นค่ายรถยนต์ผู้สนับสนุนทีมแข่งขันในรายการนี้จึงทุ่มเทอย่างมากในการพัฒนารถของตัวเองให้สมรรถนะรถเหนือกว่าทีมคู่แข่ง เทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ทันสมัย ถูกนำมาใช้ ตั้งแต่มอเตอร์ไฟฟ้าที่มีการพัฒนาให้มีแรงม้าสูงสุดถึง 270 แรงม้า วัสดุที่ใช้กับตัวรถ ต้องผ่านการค้นคว้าและวิจัยเพื่อผลักดันรถให้ไปถึงความเร็วที่สุดยอด ทุกส่วนของรถจะต้องทนทานแรงจี ในระดับความเร็ว 0-100 ภายใน 2.8 วินาที หรือความเร็วสูงสุดที่ 220 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เพื่อทำให้รถได้เปรียบสูงสุดเพื่อชิงความเป็นหนึ่งในการแข่งขัน
ทีม Jaguar Racing เป็นหนึ่งในทีมยักษ์ใหญ่ของ Formula E ในตอนนี้ ที่กำลังพัฒนารถเพื่อไล่ล่าแชมป์ให้ได้ โดยมีเทคโนโลยีของ Dow คอยเป็นผู้สนับสนุนอย่างเป็นทางการ ทีม Jaguar Racing ได้นำเทคโนโลยีด้านวัสดุศาสตร์ของ Dow มาใช้กับตัวรถแข่ง ทั้งในส่วนของความปลอดภัยของโครงรถ ที่นั่งนักแข่ง โครงสร้างของรถที่ปกป้องนักแข่งและเครื่องยนต์ โดยได้นำเอาวัสดุอย่าง polyolefin, polyurethane, acrylic รวมถึงเทคโนโลยีด้านวัสดุเคมี ที่สามารถขึ้นรูปได้ มาสร้างความแข็งแรงให้กับตัวรถ และเครื่องยนต์ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้รถทนทานต่อแรงจีมหาศาลตลอด 45 รอบการแข่งขัน โดยที่รถจะต้องมีน้ำหนักเบาและแข็งแรงเพื่อให้สามารถรีดความเร็วสูงสุดของรถออกมาได้
ซึ่งเทคโนโลยีที่คิดค้นขึ้นเหล่านี้ผ่านการทำงานและคิดค้นร่วมกันระหว่างทีมเซอร์วิสและวิศวกรของทีม Jaguar Racing กับทีมงานของ Dow เพื่อให้ได้เทคโนโลยีใหม่ๆ ที่สามารถนำไปใช้ในสนามแข่งขันได้ และทำให้ทีมก้าวไปสู่ชัยชนะในแต่ละสนาม
การทำงานร่วมกันระหว่าง Jaguar Racing และ Dow ในครั้งนี้นอกจากจะได้ประโยชน์ในด้านการแข่งขันแล้ว ยังต่อยอดไปถึงการได้เทคโนโลยีใหม่ๆ สำหรับการใช้ในรถยนต์ไฟฟ้าให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เป็นการพัฒนาด้านอุตสาหกรรม ที่เน้นในเรื่องพลังงานสะอาดที่จะช่วยทำให้โลกใบนี้น่าอยู่ยิ่งขึ้นอีกด้วย
